วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

 เรียนวิศวะแล้วจะตกงานรึเปล่า แล้วต้องเรียนยังไงถึงจะไม่ตกงาน

     ปัจจุบัน “วิศวกร” ยังเป็นอาชีพท็อปฮิตของเด็กทุกยุคสมัย เพราะเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ถูกมองว่าหาเงินได้เป็นจำนวนมาก มีตลาดงานรองรับ และเกือบทุกสถาบันมีการเปิดสอนวิศวกรรมศาสตร์อย่างแพร่หลาย เพราะได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี แม้ในความเป็นจริงตอนนี้ภาพรวมของตลาดก่อสร้าง ซึ่งเกี่ยวข้องแวดวงวิศวกรรมจะชะลอตัวไปบ้าง แต่ก็ยังเป็นสาขาวิชาที่ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากทุกสถาบันจะมีนักเรียนแย่งกันสอบเข้าเป็นจานวนมากทุกปี ในขณะเดียวกันการเปิดสาขาวิชาที่มีความทันสมัยรองรับการขยายตัว และการแข่งขันกับตลาดโลก โดยเฉพาะการเปิดเขตการค้าเสรี หรือ FTA ในอนาคต ดังนั้น การสร้างวิศวกรรุ่นใหม่ที่ต้องการเติบโตในวิชาชีพนี้จึงเป็นหน้าที่สาคัญของ สถาบันการศึกษา
      ในขณะเดียวเมื่อหันมามองในมุมของการเรียนอะไร จบแล้วได้งานทา พบว่า จากผลสารวจความคิดเห็นเกี่ยวกับกลุ่มสาขาอาชีพต่างๆ ที่มีต่อสาขาวิชาที่เรียนแล้วจะได้งานทาของสวนดุสิตโพล โดยสารวจจากผู้ประกอบการผู้ใช้บัณฑิตที่กระจายตามสาขาวิชาต่างๆนักวิชาการ ที่มีความสาคัญในการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของชาติ, กลุ่มนายธนาคารซึ่งมีผลต่อการให้กู้ยืมเงิน, นักปฏิบัติการ ผู้บริหารระดับกลาง ฝ่ายบัญชี หัวหน้าฝ่ายพัสดุการคลังนโยบาย ฯลฯ รวม 1,376 ตัวอย่าง ผลการสารวจ 10 อันดับสาขาที่หางานง่าย ได้แก่

อันดับที่ 1 การบัญชี 19.71%                      อันดับที่ 2 แพทยศาสตร์ 18.75%
อันดับที่ 3 บริหารธุรกิจ 12.02%                  อันดับที่ 4 คอมพิวเตอร์ 10.10%
อันดับที่ 5 วิศวกรรมศาสตร์ 10.10%     อันดับที่ 6 การตลาด 8.65%
อันดับที่ 7 นิติศาสตร์ 8.17%                      อันดับที่ 8 พยาบาลศาสตร์ 4.81%
อันดับที่ 9 การจัดการ 4.33%                     อันดับที่ 10 รัฐศาสตร์ 3.36%

     และจากผลสารวจข้างต้น กับอีกประเด็นที่ว่า วิศวกรล้นตลาด นั้น รองศาสตราจารย์ ดร. อธิคม ฤกษบุตร รองอธิการบดีและคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร แสดงความเห็นในเรื่องดังกล่าว ว่า ประเทศที่กาลังพัฒนาจาเป็นต้องใช้วิศวกรแต่จุดที่น่าสนใจคือ ลักษณะงานกำลังพลิกโฉมหน้าไปบ้างจากเดิม ๆ อย่างนักศึกษาในปัจจุบัน บางทีอาจจะต้องมองไปถึงงานในอนาคต เพราะกว่าตัวเองจะจบได้ปริญญาก็ต้องใช้เวลาอีก 3-5 ปี เพราะฉะนั้นเมื่อถึงเวลานั้นงานอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะไม่เหมือนกับบริษัทหรือผู้ประกอบการมักจะมองออกว่างานจะเป็นไปแบบไหน


เลือกเรียนแบบคนรู้จริง เรียนจบไม่มีตกงาน
      การเรียนคณะวิศวกรรมทุกสาขานั้นพอจบไปแล้วจะตกงานหรือไม่...ในฐานะคณบดีคณะ วิศวกรรมศาสตร์ กล่าวต่ออีกว่า การเรียนแต่ละสาขาก็มีสิทธิ์ที่จะตกงานเช่นเดียวกันหากผู้เรียนเรียนเพียง เพื่อให้จบไปเท่านั้น ประการสาคัญอยู่ที่ตัวผู้เรียนเอง คือ ถ้าเวลาเรียนแล้วเราเรียนแบบรู้จริง ตั้งใจจริง เรียนตามหลักสูตรที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดนั้น ก็จะสามารถเรียนจบและทางานได้จริง ส่วนประกอบย่อย เช่น การมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี การดาเนินชีวิตในสังคม ก็เป็นส่วนที่ทาให้ได้งานดี ๆ
      ในปัจจุบันสังคมไทยให้ความสนใจต่อกระแสเรื่องของจริยธรรมมาก ฉะนั้นในเรื่องของการประกอบวิชาชีพ เราต้องสร้างวิศวกรที่มีจรรยาบรรณและความรับผิดชอบสูงด้วย อย่าลืมว่าวิศวกรเป็นอีกอาชีพหลักอาชีพหนึ่งที่มีส่วนสาคัญในการพัฒนาประเทศ เป็นอย่างมาก



วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

     

     
 จำนวนงานกับจำนวนวิศวกรสวนทางกันหรือเปล่า ?

     ฤดูจบการศึกษาของ นักเรียน นักศึกษา เป็นช่วงเวลาที่ต้องตัดสินใจจะเรียนต่อหรือทำงานในสายงานที่ตนเองถนัดหรือตรงกับที่ได้เรียนมาแต่จะตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่อง

     ผลสำรวจความต้องการทำงานของกรมการจัดหางาน ในปี 2553 พบว่า ผู้จบการศึกษาที่ตอบ
แบบ สำรวจ 370,623 คน ต้องการศึกษาต่อถึง 292,516 คน ส่วนผู้ต้องการทำงานมีเพียง 78,107 คน แบ่งเป็นปริญญาตรี 31,240 คน หรือ 40 % ส่วนใหญ่จบบริหารธุรกิจและวิทยาการจัดการ รองลงมาเป็นผู้ที่จบม.3 แล้วจะไปทำงาน จำนวน 15,767 คน หรือ 20.19 % ส่วนปวส.และอนุปริญญาที่จะไปทำงานมีจำนวน 14,637 คน หรือ 18.74 % ส่วนใหญ่จบจากด้านพาณิชยกรรม ผู้จบม.6 และต้องการทำงาน มีจำนวน 9,574 คน หรือ 12.26 % แต่น้อยที่สุด คือ ปวช. มีเพียง 6,889 คนหรือ 8.82 % เท่านั้นที่จะทำงานและส่วนใหญ่จะจบด้านพาณิชยกรรม

     สวนทางกับตัวเลขความต้องการแรงงานใน 6 อุตสาหกรรมหลักของสภาอุตสาหกรรมแห่ง
ประเทศไทย (ส.อ.ท.) ที่ว่า ใน 5 ปีข้างหน้า (ปี 2554-2558) กลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศ อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลโลหะการ และเครื่องจักรกลการเกษตรนั้นต้องการแรงงานเพิ่มขึ้น 248,862 คน หรือเพิ่ม 19.26% จากปี 2553 ซึ่งขณะนั้นมี 1.29 ล้านคน

     ดังนั้นตัวเลขการจ้างงานรวมของ 6 กลุ่มอุตสาหกรรมในปี 2558 จะเป็นจำนวน 1.54 ล้านคน แบ่งเป็นต้องการจ้างผู้จบม. 3 และ ม.6 จำนวน 131,628 คน หรือ 52.89 % ระดับ ปวช. จำนวน 37,829 คน หรือ 15.20 % ระดับ ปวส. จำนวน 51,813 คน หรือ 20.82 % และปริญญาตรี จำนวน 27,591 คน หรือ 11.09 %ในระดับ ปวช. และ ปวส. สาขาที่ต้องการมากที่สุด คือ ช่างกลโรงงาน จำนวน 49,813 คน คิดเป็น 55.57 % รองลงมาคือ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 17,885 คน คิดเป็น 19.95 % และช่างยนต์ จำนวน 10,356 คน คิดเป็น 11.55 % ระดับปริญญาตรี มีความต้องการจ้างผู้จบสาขาวิศวกรรมศาสตร์ 27,591 คน โดย 80 % ต้องการสาขาอุตสาหการ เครื่องกล ยานยนต์ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และแมคคาทรอนิกส์ ขณะที่สาขาอื่นๆ เช่น บัญชี การเงิน กฎหมาย และงานธุรการ ต้องการเพียง 20 %เท่านั้น

     นอกจากนี้ ส.อ.ท. ร่วมกับมหาวิทยาลัยศรีปทุม สำรวจค่าจ้างอาชีพต่าง ๆ ในปี 2553 พบว่า ค่าจ้างขั้นต้นสำหรับผู้ไม่มีประสบการณ์ระดับ ปวช.เฉลี่ยอยู่ที่ 6,590 บาทต่อเดือน ระดับ ปวส.เฉลี่ย 7,697 บาทต่อเดือน ปริญญาตรีเฉลี่ย 11,518 บาทต่อเดือน ปริญญาโทเฉลี่ย 16,868 บาทต่อเดือน และปริญญาเอกเฉลี่ย 24,961 บาทต่อเดือน โดยสาขาวิศวกรรมมีค่าจ้างสูงสุดเฉลี่ย 15,056 บาทต่อเดือน ขณะที่สาขาคหกรรมได้รับค่าจ้างต่ำสุดเฉลี่ย 10,133 บาทต่อเดือน ส่วนผู้มีประสบการณ์สาขาอาชีพที่มีค่าจ้างสูงสุดคือกลุ่มผลิตไฟฟ้าและพลังงานทดแทนมีค่าจ้างประมาณ 141,893 บาทต่อเดือน

     จากข้อมูลข้างต้นทำให้เห็นปัญหา คือ ไทยไม่มีการวางแผนผลิตกำลังคนร่วมกันอย่างเป็นระบบ ทำให้ขาดแคลนสายวิชาชีพซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด ขณะที่สายสังคมกลับมีการผลิตออกมาล้นตลาด

     ปัญหาสำคัญอีกอย่างคือ ค่านิยมของเด็กไทยจะมุ่งเรียนต่อและเสาะหาใบปริญามากกว่าที่จะหางานทำเพื่อสร้างทักษะ ส่งผลให้ตลาดงานระดับอาชีวศึกษาที่เป็นตลาดใหญ่ขาดแคลนแรงงาน

     ผมขอส่งท้ายด้วยข้อสังเกตุว่าถ้าตลาดจะยังคงมีแต่ข้อมูลค่าจ้างตามวุฒิอย่างเดียวเช่นนี้คงกระตุ้นให้คนสนใจเรียนอาชีวะเน้นฝีมือ (Skills) ได้ไม่มากนัก แต่ถ้าให้ค่าจ้างตามทักษะฝีมือไม่ใช่ตามวุฒิ คนเรียนจะฝึกและฝึกมากกว่าสอบและสอบ หรือติวแล้วสอบ ....

ดังนั้น มาช่วยกันสร้างสถาบันทดสอบคุณวุฒิวิชาชีพกันครับ 


โดย : นายวีระศักดิ์  โค้วสุรัตน์
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา


CR: http://thaipublicpolicy.com/blog.asp?b_id=37 


วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556




10 อันดับวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม

1. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย    คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ 
คะแนน   24,117.50    20,170.00
 

2. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์    สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม วิทยาเขตบางเขน
คะแนน  20,174.45     18,000.00
 

3. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่    สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม 
คะแนน  17,660.00    15,699.95
 

4. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี    สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม 
คะแนน  17,811.05    15,453.95

5. มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะวิศวกรรมศาสตร์    สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม 
คะแนน  17,603.75    14,377.50

6. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หาดใหญ่    สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ 

คะแนน  18,746.95    13,846.45
 

7. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี    สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม 
คะแนน  14,279.45    12,999.90
 

8. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา    วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม (เขตพื้นที่ภาคภายัพเชียงใหม่)
คะแนน  15,710.75    12,727.40
 

9. มหาวิทยาลัยนเรศวร     สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม 
คะแนน  14,982.50    11,316.70
 

10. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี    สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม (หลักสูตรนานาชาติ) 
คะแนน  16,435.00    10,969.30



วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556




 ตำแหน่งงานต่างๆของวิศวกร

     ในโพสต์นี้เราจะมาทำความรู้จักกับชื่อของตำแหน่งงานต่างๆของวิศวกรกันครับ เวลาอ่านโพสต์อื่น หรืออ่านเกี่ยวกับเว็บหางานจะไ้ไม่งงว่าเค้าจะให้เราไปทำอะไร

> Production Engineer วิศวกรการผลิต – ควบคุมการผลิต และบริหารกำลังผลที่หน้าสายการผลิตเพื่อให้ได้สินค้าตามกำหนด
 

> Production Planning Engineer วิศวกรวางแผนการผลิต – วางแผนปริมาณการผลิตและเวลาตามคำสั่งซื้อของลูกค้า
 

> Production Control Engineer วิศวกรควบคุมการผลิต – ดูแลระบบของการผลิตเช่น คัมบัง Shipping Warehouse
 

> Process Engineer วิศวกรผลิต – ออกแบบวิธีและขั้นตอนในการผลิต
 

> Design Engineer วิศวกรออกแบบ - ออกแบบตัวสินค้า
 

> Cost Engineer วิศวกรต้นทุน – คิดราคาต้นทุนของผลิตภัณฑ์เพื่อเสนอราคาให้ลูกค้า
 

> Purchase Engineer วิศวกรจัดซื้อ – ติดต่อ ต่อรองและตรวจสอบวัสดุจาก Supplier
 

> Sales Engineer วิศวกรขาย – เข้าพบลูกค้าเพื่อแนะนำ และขายสินค้า
 

> R&D Engineer วิศวกรวิจัยและพัฒนา – ทำการปรับปรุงตัวผลิตภัณฑ์
 

> Improvement Engineer วิศวกรปรับปรุง – ทำการปรับปรุงระบบและสายการผลิต
 

> Site Engineer วิศวกรสนาม – ควบคุมการทำงานและบริหารกำลังผลที่หน้างาน(เช่น งานโครงสร้างเหล็กต่างๆ)
 

> Project Engineer วิศวกรโครงการ – ควบคุมโครงการให้ดำเนินตาม schedule ทีวางไว้
 

> Maintenance Engineer วิศวกรซ่อมบำรุง – อ่านแบบเครื่องจักรเพื่อทำการถอดชิ้นส่วนมาทำการซ่อมและประกอบให้เหมือนเดิม
 

> QA Engineer วิศวกรประกันคุณภาพ – รับเรื่องปัญหาของสินค้าจากลูกค้า หาแนวทางแก้ไขและป้องกัน
 

> Supplier QA Engineer – ตรวจสอบวัสดุที่ส่งมาจาก Supplier ว่าอยู่ในมาตรฐานหรือไม่


วันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

 

   ธุรกิจปิโตรเลียม

     ในตอนที่ 3 นี้เรามาดูเงินเดือนเริ่มต้นของวิศวกรในสายงานธุรกิจปิโตรเลียม พอลิเมอร์ และสารเคมีกันครับ รวมทั้งเงินเดือนเริ่มต้นของวิศวกรในงานด้านอื่นๆกันครับ ซึ่งงานได้ปิโตรเคมีนี่เงินเยอะจิงๆครับบอกเลย

ธุรกิจปิโตรเลียม ( วิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมปิโตรเคมี วิศวกรรมเคมี)
1.PTT ปิโตรเลียม สำนักงานใหญ่ 18000 Bonus 7.5 TOEIC Score 500
2.PTT Chemical 35000+10000 Bonus 4 TOEIC Score 750
3.PTTEP สำรวจและขุดเจาะ 24000 Bonus 4 TOEIC Score 750
4.Unocal สำรวจและขุดเจาะ 45000 Bonus 6 TOEIC Score 750

ธุรกิจปิโตรเคมี พอลิเมอร์ และสารเคมี (วิศวกรรมเคมี วิศวกรรมปิโตรเคมีและทั่วไป)

1. ฮิไรเอมิซึ เครือสหพัฒน์ งานฉีดพลาสติก ชลบุรี 12000 + ค่าอื่นรวมแล้วประมาณ 14000
2.Brigdestone Carbonblack ผลิตผง Carbonblack สำหรับผลิตยางรถยนต์ ระยอง 15000 OT ไม่อั้น ทำงาน 5 วัน พนักงานได้ไปอบรมที่ต่างประเทศบ่อยมาก Bonus 2
3.Yellow Care กรุงเทพมหานคร 14000 ไม่มี OT เมื่อผ่านช่วงทดลองงานจะปรับเงินเดือนตามความสามารถ
ธุรกิจแปรรูปโลหะ ( ส่วนใหญ่รับวิศวกรรมเครื่องกล มีวิศวกรรมอุตสาหการบ้าง)

*1. สหวิริยา ประจวบคิรีขันธ์ แปรรูปเหล็ก 18000 มีค่าเช่าบ้านและค่าอื่นๆ อีกประมาณ 4000
2.Siam United Steel มาบตาพุต ระยอง ผลิตเหล็กแผ่นรีดอยู่กลุ่มเดียวกันกับเหล็กสยามยามาโมโตะ 19000 – 22000 + 5000
3.Siam Yamamoto Steel ระยอง ผลิตเหล็กโครงสร้าง ตัวไอ ตัวที 19000-22000 + 5000
4. สหวิริยา ฉะเชิงเทรา 12000 มีบ้านพักให้
5. สหวิริยา สำนักงานใหญ่ 18000 แต่ไม่มีค่าเช่าบ้านและค่ากันดารอื่นๆ
6.TATA Steel 19000 กว่าๆ + 500 (Toiec) + ค่าบ้านนอกเกือบ 6000 บาท มี โอที
7.SeAH อมตะนคร ผลิตท่อสำหรับเครื่องทำความเย็น ชลบุรี 17000




ธุรกิจอื่นๆ ( วิศวกรรมทั่วไป)

ธุรกิจอื่นๆ ( วิศวกรรมทั่วไป)
*1.CPF อาหารคน และ อาหารสัตว์ 21000 มีที่พักฟรีห้องแอร์ โบนัส 2 เดือน ไม่มี OT
2.CPI ปทุมธานี การส่งออกอาหาร 18000 แต่ไม่มีที่พัก และไม่มีโอที
3.Ajinomoto 17500 สวัสดิการและค่าตอบแทนอื่นๆ ดีมาก
*4.Bankok Glass ปราจีนบุรี ขว??แก้วสำหรับบรรจุเครื่องดื่ม 15000 มีหอพักให้
*5.Bankok Glass คลองสี่ เงินเดือนตามเกรด เฉลี่ย มากกว่า 3.00 20000 มากกว่า 2.7 18000 น้อยกว่า 2.7 15000
6. คอตโต้ เซรามิก สระบุรี รวม 19000
7. โตไก ริคะ ระยอง ผลิตแม่กุญแจ 14000 + ค่าเช่าบ้าน
8.Duth Milk นครปฐม 16000 รวมค่าอื่นๆ 18000
9. ราชการ 8000 – 9600 มีบ้านพักให้สำหรับผู้ที่ทำงานต่างจังหวัด
*10. ดูราเกต ทำกระเบื้อง สระบุรี เงินเดือน 15000 ค่าเช่าบ้าน 4000 ผ่านโปรได้เพิ่ม 1000

อาจารย์ ( วิศวกรรมทั่วไป)

1 มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นวิศวกรประจำภาควิชา(วุฒิปริญญาตรี) 9800 + ค่าหน่วยกิจการสอน(มากน้อยตามหน่วยกิตและจำนวน Section ที่ตัวเองสอน)
------------ หากปริญญาโท 12000 ปริญญาเอก 18000 มีค่า ผศ. ค่า ศ. ค่าประจำตำแหน่ง(ปริญญาโทขึ้นไปจะได้เป็นอาจารย์ประจำภาควิชา)









 

 ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์
    
    ในตอนที่นี้ 2 เรามาดูงานที่เกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ และงานเกี่ยวกับการรับเหมาและงานโครงสร้าง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นงานของวิศวกรเครื่องกล โยธา และอุตสาหการครับ

ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ ( วิศวกรรมอุตสาหการจะเกี่ยวกับควบคุมสายการประกอบ วิศวกรรมเครื่องกลจะเกี่ยวกับด้านการวิจัยและพัฒนา)
1.Hitachi Global storage ปราจีนบุรี 17000 Bonus 1(Fix) + 2-4 (Variable)
2.Sony Device Technology ปทุมธานี 18590 + ค่า TOEIC(1000up) Bonus 3
*3.Western Digital Hi-tech Ayuthaya 18000 Bonus 2.5 พนักงานใน line มีแต่ผู้หญิง
4.Canon Hi-Tech Ayuthaya 17500 Bonus 2.5
*5.Thai Samsung ในเครือสหพัฒน์ ศรีราชา 16500 ทำงาน 5 วัน Bonus 2.5 แต่โอทีกระจายเดือนหนึ่งอาจถึง 30000 สำหรับใน Line การผลิต ไม่มีรถรับส่ง
6.DAIKIN INDUSTRY 16700+800+ อื่นๆเกือบ 20000 โบนัส 4-5 เดือน โอทีเยอะ
*7.LG Electric ระยอง 18593 + ค่าบ้านนอก 900 + เบี้ยขยัน( 600 - 3000) + OT ไม่อั้น ข้าวพร้อมกับข้าวฟรีมื้อเที่ยงและเย็น รวมรายได้ต่อเดือน 23000 – 30000 Bonus ตามผลประกอบการ 2 – 4.5 ( โรงแอร์ 2.5 โรงเครื่องซักผ้า 4 ) มีให้เลือก 4 โรงคือ แอร์ คอมเพรทเซอร์ ทีวี และเครื่องซักผ้า มีรถรับส่งตั้งแต่ชลบุรีถึงตัวระยอง ( ค่อนข้างเป็นองค์กรเพื่อการเรียนรู้ถ้าเข้าได้แล้วออกมารับรองมีความรู้ไว้ ใช้ได้มากมาย)
8. ซิเลนติก้า แหลมฉบัง 20000 โบนัส 2 เดือน
9.ROHM ประมาณ 16,000 โบนัส ประมาณ 2-3 เดือน สัมภาษณ์ ภาษาอังกฤษ
*10.NIDEC ประมาณ 16,000 UP โบนัส 2.5 เดือน
11. สยามคอมเพรสเซอร์ ( Siam Compressor) ทำ Compressor สำหรับเครื่องปรับอากาศ ในนาม Mitsubishi แหลงฉบัง ชลบุรี 17500 + ค่าเช่าบ้าน 5000 + ค่าเดือนทาง 1100
*12.Magnecomp 17,000 โบนัส 1 เดือน
13.DDK fujikura 16,000 โบนัส 2.5 เดือน
14.Mitsubishi electric consumer product ทำแอร์ ชลบุรี รวมประมาณ 19,000 บาท OT เยอะ โบนัส 6
15. บริษัทเดลต้าอีเล็คทริค สมุทรปราการ ประมาณ 12,000
*16.Panasonic นิคมเวลโก ฉะเชิงเทรา 10500 + ค่าประจำตำแหน่งวิศวกร 3500
*17.Sodisk ผลิตเครื่องจักร CNC 10500 + ค่าตำแหน่ง , ค่าอาหาร , ค่าเช่าบ้าน 6500 พนักงานในไลน์ค่อนข้างเถื่อน
18.PCTT นวนคร 17000 Bonus 2-4 (Variable)
19.UTAC Thai 18000 + ค่าเกียติรนิยม 500
*20.Toshiba Electrical นนทบุรี 15000 โบนัส 2.5
21.NEC TOKIN 16400 โบนัส 3-4
*22.Mektec Manufacturing นิคมโรจนะ เงินเดือน + ค่าประจำตำแหน่ง + ค่าภาษา รายได้รวม ประมาณ 20000-25000 โบนัสสูงมากๆ ถ้าอยากเข้าคุณต้องมีดีจริงๆหรือไม่ก็เก่งภาษาอังกฤษ(ถามเพื่อนที่เข้าได้ มาบอกว่าตอนสัมภาษณ์คำถามยากมากๆ)
*24.KTE ผลิต PCB 13000-15000 มีปันผลกำไร( Bonus) ให้ทุกเดือน และมี Bonus ประจำปี มี OT รายได้รวมต่อเดือนใช้ได้
*25.Mitsubishi Elevator อมตะนคร ชลบุรี ผลิตลิฟต์และบันไดเลื่อน เงินเดือน 14800( ผ่านโปรเพิ่ม 750) + 1900 ค่าครองชีพ + 1000 ค่าตำแหน่ง+ 900 ค่าอาหาร (ผ่านโปรรวม 19350 บาท) เบี้ยขยัน 300 – 500 บาท ทำงาน 5 วัน โบนัสไม่ต่ำกว่า 3 ( ปี 2008 โบนัส 5 เท่า + 6500) โบนัสและโอทีคิดจาก เงินเดือน + ค่าตำแหน่ง + ค่าครองชีพ หรือประมาณ 18550 เมื่อผ่านโปร
26.Nikon (Thailand) นิคมโรจนะ อยุทธยา เงินเดือนประมาณ 17000 บาท ทำงาน 5 วัน
*27.Uni Air เงินเดือน 13000 บาท





 ธุรกิจรับเหมาและงานโครงสร้าง

ธุรกิจรับเหมาและงานโครงสร้าง ( ส่วนใหญ่วิศวกรรมเครื่องกลและโยธา)

1.Sino-Thai 15000 + ค่ากว. รายได้รวม OT 20000 – 25000 ( สำหรับวิศวกรที่ออก Site งาน)
2.Thai Rotary 14000 + ค่ากว. มีโอกาสได้ไปฝึกงานที่สิงกโปร์
3. วัฒนไพศาล 14000 + ค่าออกไซท์ 5100 ยังไม่รวมโอที ( Site Engineer)
4.Unimit Engineering บ้านบึง ชลบุรี ผลิตถังความดัน และ แทงค์น้ำมันให้ ปตท 14000 โบนัส 4
5.Canadoil Pipe ทำท่อสำหรับน้ำมันและก๊าซ 15000–18000( ขึ้นกับการต่อรอง) + ค่าเช่าบ้าน 2000 + ค่าเดินทาง 1000 ทำงาน 6 วัน ไม่มีค่า โอที โบนัสตามอายุการทำงานและความสามารถ
6. วิศวกิจพัฒนา( VIPCO) แหลมฉบัง ชลบุรี 16000
7. ซีคอน งานโครงสร้างและสาธารณูปโภค ฉะเชิงเทรา 16000



วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2556


     ธุรกิจประกอบยานยนต์ (วิศวกรรมอุตสาหการ วิศวกรรมเครื่องกล)

     เงินเดือนของวิศวกรจบใหม่ของแต่ละบริษัทครับ อาจไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นแต่ก็ถือว่าเชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง ในโพสต์นี้เรามาดูกับครับว่าเงินเดือนของวิศวกรจบใหม่ในสายการทำงานที่เกี่ยวกับธุรกิจประกอบรถยนต์ และธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งส่วนมากจะเป็นงานของวิศวกรอุตสาหการและวิศวกรเครื่องกลครับ

> 1.Mitsubishi Motor แหลมฉบัง ชลบุรี 16000 Bonus 6+13000
> *2.Toyota Motor Asia Pacific (TMAP) สมุทรปราการ 18000 Bonus 6.5 + 12000 Require TOEIC Score 550
> *3.Isuzu Motor สมุทรปราการ 16000 Bonus 6.0+5000 TOEIC Score 450 (สำหรับจบใหม่ ตรงนี้ไม่ถึงไม่เป็นไร แต่จะพิจารณาเป็นพิเศษถ้าหากถึงเกณฑ์ แต่ส่วนมากเขาดูตอนเราสัมภาษณ์มากกว่า)
> 4.Honda Automobile ทำรถยนต์ โรจนะ อยุธยา 17500 + ค่าอาหาร 500 +ค่าภาษา TOEIC และ Japanese Leve 2000-4000 Bonus 6-7 เกรดต้องเกิน 2.70
> 5.Honda Motor ทำรถมอเตอร์ไซด์ สมุทรปราการ ประกอบมอเตอร์ไซด์ ได้เท่ากับ Honda Automobile
> 6.Thai Yamaha Motor 15000 Bonus 4-5 *Toyota Take Over เรียบร้อยอีกสักพักทุกอย่างจะเท่าๆ Toyota
> 7.GM ปลวกแดง จ.ระยอง 25000-30000 โบนัส 5-7 ให้เยอะแต่ไม่มี OT
> 8.BMW 30000 โบนัส 4-5
> 9.NISSAN 16000 Bonus 4-5
> 10.Auto alliance (Ford&Mazda) 24000 โบนัส 5-6
> *11.Suzuki ปทุมธานี 15000 ทำงาน 5 วัน โบนัส ประมาณ 2-3 เดือน
> *12.Kawasaki ปลวกแดง ระยอง 15000 + ค่าเช่าบ้าน ทำงาน 5 วัน โบนัส 3
> 13.ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ 14,200 โบนัสประมาณ 2-3 เดือน
> *14.Honda R&D สวัสดิการเดียวกับ Honda อื่นๆครับ




 ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ (วิศวกรรมอุคสาหการ วิศวกรรมเครื่องกล)

> 1.DENSO International สมุทรปราการ เทพารักษ์ 16800 Bonus 6.5+12000
> 2.Denso Thailand 16800 Bonus 6.5+ 7000
> 3.Siam DENSO อมตะนคร ชลบุรี 16800 Bonus 6.5 + 7000 Like Toyota
> 4.Thai Summit Group 16000 โบนัส 4-4.4
> 5.ซัมมิต ออโตซีท 18000 โบนัส 4 มีสองที่คือแหลมฉบังและสมุทรปราการ
> 6.บริดสโตน (รังสิต, วังน้อย) 18,000 โบนัส สูง
> 7.ดีสโตน อินเตอร์เนชั่นแนล นครปฐม ทำยางรถยนต์ เงินเดือน 13,500 โบนัส 2-4
> 8.NHK Spring ฉะเชิงเทรา(นิคมเวลโก) 15,000 โบนัสให้สูง 6-8
> 9.YSP ทำท่อไอเสีย ฉะเชิงเทรา(นิคมเวลโก) 13,500 ค่าน้ำมัน 1.75 บาท/กม. โบนัส 6
> 10.ไทยสตีลเคเบิ้ล ทำสายเคเบิ้ล ในรถยนต์ 11,000 โบนัส 2-4 เดือน
> 11.KOITO สมุทรปราการประมาณ 15,000
> 12.เอ็นไก สมุทรปราการ ล้อแมก ประมาณ 14,000
> 13.Siam Kayaba ชลบุรี ทำโช๊ครถยนต์ ประมาณ 15,000
> 14.นวโลหะไทย (SNF) ท่าหลวง สระบุรี 18000 + ค่าอาหาร500 + เลือกระหว่าง(ค่าเช่าบ้าน 4500 หรือหากอยู่ ที่พักที่บริษัทเตรียม จะได้ ค่าช่วยเหลือ 1500) ทำงาน 5 วัน Bonus 5-6 OT เหมาจ่ายประมาณ 250 บาทสำหรับ มากกว่า 2 ชั่วโมง หรือ 600 บาทสำหรับ 8 ชั่วโมง แต่วัฒนธรรมที่นี่วิศวกรไม่ค่อยทำ OT กันสักเท่าไร (เครือ ATTG)
> 15.นวโลหะอุตสาหกรรม (NIC) หินกอง สระบุรี 18000 + ค่าอาหาร500 + ค่าเช่าบ้าน 4500(ไม่มีที่พักเตรียมให้แต่มีรถรับส่ง) ทำงาน5 วัน Bonus 5-6 ทำ OT กระจายรายได้ต่อเดือน 25000-30000
> 16.ATT สระบุรี เหมือน นวโลหะอุตสาหกรรม
> 17.NOK ชลบุรี 18000 + ค่าตำแหน่งและเงินช่วยเหลือ 3000-5000 โบนัส 4 (แต่ต้องทำงานตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปถึงจะได้) ทำงาน 5 วัน รายได้รวม OT 24000 - 30000
> 18.บริษัทยานภัณฑ์ ทำท่อไอเสีย ประมาณ 16,500
> 19.Bridgestone NCR ผลิตชิ้นส่วนยางกันสะเทือนสำหรับยานยนต์ 15000 ทำงาน 5 วัน
> 20.KIRIU ปลวกแดง ระยอง 14000
> 21.โตไก อีสเทริน ผลิตชิ้นส่วนทที่เป็นยางสำหรับยานยนต์ ระยอง ปลวกแดง ประมาณ 15000 + ค่าเช่าบ้าน ผ่านโปรรวม 18000 บาทต่อเดือน โบนัส 4
> 22.สามมิตร ผลิตกระบะสำหรับรถบรรทุก มากกว่า 12000
> 23.Thai Arrow (เครือ Thai Yazaki) ฉะเชิเทรา ทำสายไฟสำหรับยานยนต์ 15967 (หากผ่านโปรจะได้เพิ่มอีก 1905) โบนัส 4 มีรถรับส่งถึงกรุงเทพและชลบุรี
> 24.Summit Harness 14000 หากพ้นโปรจะพิจารณาตามความเหมาะสม
> 25.ไดชิน (Daisin) อยุธยา 14500
> 26.แอมพลาส(Amplass) สมุทรปราการ 16000
> 27.Sumitomo Rubber ทำยางรถ ให้ DUNLOP เงินเดือน 16000 + ค่าเช่าบ้าน 2000 OTเยอะ
> 28.สยามโตโยต้า (Siam Toyota) Gateway 16500 + บ้านนอกอื่นๆประมาณ 5000 Bonus 6.5
> 29.Saim Aisin Takaoka Industrial(SATI) นิคมอมตะ ชลบุรี 18000 + 5000 (เครือ ATTG)
> 30.Aisin Takaoka Foundry Bangpakong(ATFB) นิคมอมตะ ชลบุรี 18000 + 5000 (เครือ ATTG)
> 31.Thai Engineering Product(TEP) 18000 + 5000 (เครือ ATTG)
> 32.Thai Asahi Denso อ.ปลวกแดง ระยอง ประมาณ 14000 + 700 (ค่าอาหาร) ผ่านโปรเงินเดือนเพิ่มเป็น 16500 + 1500 มีหอพักให้อยู่(หนึ่งห้องต่อหนึ่งคน) มี O.T. ทำประจำ
> 33.Mineabea ลพบุรีและอยุธยา 17,000 ที่ลพบุรีมีที่พักให้ แต่ไม่มีค่า OT โบนัส 2.5 เดือน สัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ
> 34.Siam Furukawa Battery ทำแบตเตอร์ยี่ห้อ FB รายได้รวมต่อเดือนมากกว่า 20000
 

 

วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556


ใครๆก็บอกว่าหมอมั่นคงกว่าวิศวกรจริงหรือ ?

     หลายๆคนที่กำลังจะตัดสินใจเรียนวิศวกรรมอาจหนักใจเรื่องที่ว่าเมื่อเรียนจบแล้วจะมีงานทำไหม หนำซ้ำถึงหางานทำได้แล้วก็ยังไม่มีความมั่นคงเอาซะเลย ซึ่งเมื่อเทียบกับอาชีพที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทยอย่าแพทย์แล้วมันช่างเทียบกันไม่ติดเลย ทั้งเรื่องเงินเดือน ทั้งเรื่องความมั่นคง ดังนั้นเรามาดูความคิดเห็นต่างๆของบุคคลในวัยทำงานกันครับ ว่าเค้าคิดอย่างไรกันกับเรื่องนี้


จากคุณ : tainaruk 
     เห็นพวกพี่ๆวิศวะมาบ่นกัน ว่าเดี๋ยวนี้วิศวะไม่ได้รวยและมั่นคงอย่างที่ทุกคนคิด วิศวะ โดยส่วนใหญ่ของมอดัง จะได้เงินเดือน15000-สองหมื่นกว่า ขอย้ำว่าโดยส่วนใหญ่ อาจจะมีคนโดดเด่นที่ได้มากกว่านี้ แต่นั่นแหละ 1ใน100 เลยทีเดียว พวกรุ่นพี่เวลาแนะนำบอกให้เรียนหมอหรือหมอฟันไปเลย มั่นคงกว่า งานเหนื่อยน้อยกว่า ถ้าใครบอกหมองานหนักต้องไปดูหมอเอกชน หมอทำงานไม่กี่วันค่าแรงจะเท่ากับวิศวะทำงานเดือนนึง เสาอาทิตหมอรับงานตามคลีนิคได้เงินเยอะ แต่วิศวะทำไม่ได้ ถึงรับงานพวกเขียนโปรแกรมมา แต่มันก็เหนื่อยกว่าหมอ เพราะหมอแค่ไปนั่งตรวจๆเพราะส่วนใหญ่คลีนิคจะเป็นคนไข้อาการไม่หนัก หรือจะไปรับงานตามสถาบันความงามก็ได้ ถ้าบอกว่าหมอต้องอยู่เวร แต่หมอฟันก็ไม่ต้องอยู่นะ รับงานคลีนิคได้ด้วย วิศวะทำงานไปนานๆ อาจถูกจ้างออกได้ ส่วนหมอถึงแก่แล้วก็เปิดคลีนิคเองได้

จากคุณ : MAX
     หมอก็เหนื่อยไม่น้อยเหมือนกันนะครับ บ้างทีทำงานติดต่อกันเกิน 24 ชั่วโมงด้วยซ้ำ ส่วนเรื่องวิศวกร ผมว่าบอกคนอื่นว่าเป็นวิศวกรก็ฟังแล้วเท่ห์ดีนะครับ สาวที่ผมรู้จักคนหนึ่งเค้าก็บอกว่าเค้าจะต้องคบกับวิศวกรเท่านั้น ส่วนถ้าบอกอาชีพคนอื่นว่าเป็น IT Support หรือ Programmer ดูแล้วธรรมดามาก ๆ

จากคุณ : CMT
     มันเป็นวิชาชีพที่ต่างกัน คงเปรียบเทียบกันตรงๆไม่ได้หรอกครับ แพทย์มีจำนวนน้อยกว่ามากๆ อุทิศเวลาค่อนข้างมาก อย่ามองแต่เป็นแพทย์แล้วรวยอย่างเดียว ที่ไม่รวยมีอีกมากครับ งานก็เครียด รักษาก็ต้องระวังทำอะไรพลาดมีหวังจบเห่ ผมมีลูกค้าเป็นหมออยู่หลายคนเหมือนกัน คุยดูแล้วรู้ได้เลยว่าสิ่งที่เค้าทำควรได้รับการตอบแทนที่คุ้มค่าครับ  
     วิศวะจบปีนึงเยอะมากๆครับ เหมือนหลักการ demand / supply ครับ อะไรที่มีเยอะๆราคาก็ต้องต่ำหน่อยครับ ส่วนความสำคัญของวิชาชีพ ก็มีความสำคัญของตัวเอง หน้าที่ใครหน้าที่มันครับ ค่าตอบแทนที่เป็นเงินเดือนอาจจะไม่เยอะ แต่ก็มีช่องทางทำอย่างอื่นได้ แล้วแต่ใครจะทำอะไรได้แค่ไหนครับ
     สมัยก่อนโน้น มันมีสอบโควต้าเข้าม.ในภูมิภาค ผมสอบได้คณะแพทย์ แต่สละสิทธิ์ไปเพราะว่า กลัวเลือด และ ชอบวิชาพวกคำนวณมากกว่าครับก็เลยมาสอบ Entrance (ในสมัยนั้น) เข้ามาเรียนวิศวะ เพื่อนๆที่เรียนด้วยกันจบไปก็มีหลายแบบ ทำงานวิศวะ ,เป็นอาจารย์, ทำงานด้านการเงิน, เป็นทนาย, เป็นผู้ใหญ่บ้าน..

ส่วนตัวผมเอง ทุกวันนี้ทำค้าขายครับ เวลาเขียนอาชีพ ก็จะบอกว่าเป็น นักธุรกิจ  

จากคุณ :  Bee Senior
      เพื่อนเป็นหมอเด็ก อยู่โรงพยาบาลเอกชน รายได้เยอะ ทำงานจันทร์-เสาร์ เจอหน้าลูกแค่วันอาทิตย์  วันธรรมดาคนไข้อาจไม่เยอะ  แต่วันเสาร์กินข้าวเที่ยงแบบจานด่วนตลอด คนไข้แน่นตลอดวัน  เวลาหายใจแทบไม่มี  เข้าห้องน้ำก็ไม่ได้ พ่อแม่ผู้ปกครองอุ้มลูกรอหน้าห้องตรวจตลอด   ท่านว่าดีไหม..?
     เพื่อนอีกคนเป็นหมอโรงพยาบาลรัฐ ผู้หญิงหน้าตา OK ทำงานหนักทุกวันจนเป็นโสดทุกวันนี้ คนไข้มารอตั้งแต่ ตี 5 ลงตรวจตั้งแต่ 8-9 โมง กว่าจะเคลี่ยร์คนไข้เสร็จ เกือบเคารพธงชาติเย็นทุกวัน  ท่านว่าดีไหม....?

ส่วนวิศวกร
     ถ้าอยู่เอกชนมีทั้งรุ่งและไม่รุ่ง ถ้าไม่รุ่งเงินเดือนเยอะๆก็เห็นหลายคนออกมาเปิดกิจการส่วนตัวทั้งนั้น รอดหรือเปล่า...คนละประเด็น อยู่รัฐวิสาหกิจ อยู่ราชการ เงินเดือนประจำ เริ่มต้นไม่เยอะงานสบายๆอยู่ไปนานๆสำหรับคนดีปกติเงินเดือนเพิ่มขึ้นตามเวลา

ปล 1.ข้อความด้านบน เฉพาะจากประสบการณ์ที่ผมเคยเจอกับตัวเองนะครับ  ที่เพื่อนๆ ผมมันเป็นกัน
    2. ไม่ได้เหมารวม หมอทุกคน ไม่ได้เหมารวม วิศกรทุกคน นะครับ  
  
จากคุณ : Miata

ความเห็นผมนะครับ

ด้านการผลิตบุคลากร

     ประมาณ 10-20 ปีก่อน ประเทศอยู่ในช่วงเร่งพัฒนา มีนโยบายให่เพิ่มนักศึกษาวิศวะเพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดงาน ม.รัฐ มีการรับนักศึกษาเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในหนึ่งรุ่นมีนักเรียน 3-5 ร้อยคนเลยทีเดียว จากนั้น ม.เอกชน เริ่มมีการเปิดคณะวิศวกรรมศาสตร์กันเยอะขึ้น รวมถึงสถาบันเทคโนโลยีและสถาบันราชภัฏ

ขณะเดียวกัน

     แพทย์ในประเทศไทยมีไม่เพียงพอต่อจำนวนประชากร แต่การจะเพิ่มนักศึกษาแพทย์ทำได้ยาก มักจะมีข้ออ้างเรื่องสรรพยากรในการสอนไม่เพียงพอ ทางแพทย์สภาก็ออกมากันท่า อ้างว่าแพทย์ที่ได้จะไม่มีคุณภาพ

ด้านการทำงาน

     วิศวกร จะพยายามกระจายงานไปสู่ระดับต่ำกว่า เช่นวิศวกรคิดคำนวณแล้วส่งงานให้พนักงานสายอาชีพ(ปวช. ปวส.) เป็นคนทำ งานบางอย่างสายอาชีพจะสามารถทำงานแทนได้ ตัดสินใจแทนได้
งานโรงงาน สายอาชีพหากทำงานมานาน ก็ปรับตำแหน่งเป็นวิศวกรได้ ส่วนแพทย์(ในไทย)จะรับงานเกือบทั้งหมดไว้ที่ตัวเอง พยาบาลไม่สามารถช่วยอะไรได้เท่าไหร่ (ด้วยเพราะกฏหมายไม่ได้ให้สิทธิ์ตรงนี้)
ทำให้อะไรๆก็ต้องแพทย์ตัดสินใจ

การทำงานส่วนตัว

     วิศวกรต่อให้เก่งมากแต่ถ้าไม่มีทุนคงไปสร้างอะไรออกมาขายได้ (ค่าสร้างโรงงาน ค่าเครื่องจักร)ไม่มีทุน ก็เป็นได้แค่ลูกจ้าง แพทย์ มีแต่ตัว(กับวุฒิ) โรงพยาบาลก็แทบจะมาเชิญไปทำงานแล้วมีตึกแถวห้องนึง ก็เปิดคลินิกได้
 
ปล. ผมจบวิศว 1 ใน 3 พระจอม   ถ้าย้อนเวลาได้  ตอนสอบ Entrance จะเลือกหมอแน่นอน  

วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556


"เส้นทางสู่วิศวกร"    

     ตามระบบแอดมิสชั่นในปัจจุบัน สิ่งที่ว่าที่วิศวกรจะต้องใช้ในการสอบเข้าแข่งขันแบ่งได้ดังนี้

คะแนน GPAX 20%
     คือผลการเรียนตลอดหลักสูตรในระดับมัธยมปลาย ดังนั้นถ้าใครที่ตอนนี้เพิ่งเข้าเรียนมัธยมปลาย ก็เร่งฟิตทำเกรดให้สูงไว้จะได้เปรียบค่อนข้างมากเลยทีเดียวแต่ถ้าใครที่กำลังขึ้น ม.6 เพิ่มเกรดไม่ทันแล้วก็ไม่เป็นไรครับเพราะ GPAX เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เราสามราถไปฟิตที่ตัวอื่นและทำให้ผลรวมของคะแนนสูงขึ้นมาก็ได้เช่นกัน ดังนั้นถ้าใครที่เกรดมัธยมปลายไม่ค่อยสูงเท่าไร แต่โอกาศที่จะสามารถเข้าไปเรียนในคณะวิศวกรรมศาสตร์ดังที่ใจหวังก็ยังมีสูงอยู่ครับ

คะแนน O-net 30%
     มาดูที่โอเน็ทกันบ้าง สำหรับข้อสอบนี้เป็นเหมือนการทดสอบความรู้ในระดับชั้นมัธยมปลายซึ่งการสอบในส่วนนี้จะมีวิชาภาษาไทยและสังคมศึกษาด้วย ดังนั้นจึงต้องฟิตวิชาเหล่านี้ด้วยเพื่อนช่วยดึงคะแนนโอเน็ทให้สูงขึ้น ใครที่เกรด GPAX ไม่ค่อยสูง ก็มาฟิตที่วิชาทั่วไปในโอเน็ทก็จะช่วยได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะสัดส่วนของโอเน็ตนั้นสูงถึง 30% เรียกได้ว่าสูงกว่าสัดส่วนของคะแนนอื่นๆทุกรูปแบบเลยก็ว่าได้ ดังนั้นความรู้ทางด้านภาษาไทยและสังคมก็อย่าเพิ่งทิ้งนะครับ ไว้ให้สอบโอเน็ทเสร็จเรียบร้อยก่อนค่อยว่ากัน

คะแนน GAT 15%
     แกท เป็นข้อสอบที่วัดความถนัดทั่วไปแบ่งออกเป็นการวัดความสามารถทางด้านการอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์ 50% และการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษอีก 50% มีทั้งปรนัยและอัตนัย ข้อสอบแกทนี้ต้องลองหาตัวอย่างข้อสอบมาฝึกทำดูครับ แล้วจะได้รู้ว่ามันเป็นอย่างไร เราจะเจออะไร เพราะเรื่องของการคิดวิเคราะห์และความถนัดนั้นเป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝนจึงจะชำนาญครับ

คะแนน PAT1 15%
     เป็นการวัดศักยภาพทางคณิตศาสตร์ล้วนๆครับ เพราะสำหรับวิศวกรต้องรักการคำนวนเป็นชีวิตจิตใจ ดังนั้นความรู้ในแต่ละบทที่ได้เรียนมาในชั้น ม.ปลาย หรืออาจจะรวม ม.ต้น ด้วยนิดหน่อยก็จะได้เอามาใช้ประโยชน์ในตอนนี้แหละครับ ถึงแม้ว่า pat1 จะมีสัดส่วนเพียง 15% แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่สำคัญนะ เพราะ pat1 คือการทดสอบวัดความถนัดทางด้านการคำนวนของเราก่อนที่จะเข้าไปเจอความโหดร้ายที่มากกว่าหลายเท่าตัวในระดับมหาวิทยาลัย ดังนั้นคะแนนในส่วนนี้จึงเป็นเครื่องชี้วัดได้อีกทางหนึ่งเลยครับว่าเราจะสามารถต่อกรกับคณิตศาสตร์ระดับสูงในมหาวิทยาลัยได้มากน้อยเพียงใดแต่ก็ไม่ใช่เพียงแค่คณิตศาสตร์ครับที่ต้องใช้ยังมีอีกส่วนที่สำคัญกว่าและมีสัดส่วนถึง 20% คือ pat3 นั่นเอง

คะแนน PAT3 20%
     เป็นการวัดศักยภาพความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์มีทั้งเรื่องของความถนัดทางเชิงช่าง การคิดวิเคราะห์ ความคิดเชิงตรรกะ สามัญสำนึกเรื่องความปลอดภัยกับสิ่งแวดล้อม การแก้ปัญหาและธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งประเด็นเหล่านี้จะถือเป็น 15% ของคะแนนทั้งหมดใน pat3 เรียกได้ว่าจะเป็นวิศวกรก็ต้องมีความรู้พื้นฐานการช่างกันบ้าง ส่วนอีก 85% ที่เหลือแทบจะเป็นฟิสิกส์เน้นๆเลย มีทั้งเรื่องกลศาสตร์ เช่น แรง มวล กฎการเคลื่อนที่ต่างๆ ไฟฟ้า แม่เหล็กไฟฟ้า คลื่น แสง เสียง พลังงานความร้อน ของไหล และรวมทั้งวิชาเคมีอย่างสารและสมบัติของสารด้วย

     จะเห็นได้ว่า pat1 และ  pat3 ทำให้ชีวิตของวิศวกรเกี่ยวข้องกับการคำนวนขนาดไหน  คณิตศาสตร์เปรียบเสมือนเครื่องมือช่วยให้การวิเคราะห์และการออกแบบเป็นไปได้ โดยใช้ศาสตร์ที่เรียกว่าฟิสิกส์หรือที่เรียกว่าวิทยาศาสตร์ธรรมชาติเข้ามาร่วมด้วย สองวิชานี้เปรียบเสมือนเครื่องมือหากินของวิศวกรเลยครับ เพราะเมื่อรวมกันแล้วมีสัดส่วนถึง 35% มากกว่า O-NET ซะอีก
View My Blog
Subscribe to RSS Feed Follow me on Twitter!