วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556


(ภาพบรรยากาศการสอบสัมภาษณ์)

เตรียมตัวสอบสัมภาษณ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์
     ในการที่จะเข้าเรียนในคณะวิศวกรรมศาสตร์การสอบข้อเขียนไม่ใช่ปราการเดียวที่จะชี้วัดว่าเราจะได้เข้าศึกษาไหม เมื่อคะแนน Onet gat และ pat ต่างๆ ของเราผ่านเกณฑ์ที่ทางสถาบันต้องการแล้ว อีกหนึ่งการสอบที่เราจะต้องพบคือการสอบสัมภาษณ์ครับ และการสอบสัมภาษณ์ในการเข้าศึกษาต่อนี้ สำหรับในรอบแอดมิสชั่นนั้นถือว่าไม่มีอะไรที่ต้องกังวลเลย พูดได้เลยว่าถ้าคะแนนเราถึงเกณฑ์ที่เขาต้องการแล้วถือว่า 99.99% แล้วล่ะครับ ที่เราจะได้เข้าไปเรียนในสถาบันนั้น แต่ถ้าเป็นรอบการรับตรงนี่ถือว่ามีส่วนสำคัญมากที่จะตัดสินอนาคตว่าเราจะได้เข้าศึกษาในสถาบันนี้เลยครับ เพราะการรับตรงหลายๆสถาบันจะคัดเอาคนที่มีบุคลิกภาพ ทัศนคติและศักยภาพที่เหมาะสมเข้าไปศึกษา ถ้าเห็นว่าไม่เหมาะสมก็สามารถให้ตกได้ทันทีแล้วค่อยไปรับเพิ่มในรอบแอดมิสชั่นเอา
     ดังนั้นการสอบสัมภาษณ์จึงมีความสำคัญระดับหนึ่งเลยล่ะครับ มาดูพื้นฐานที่ดีในการสอบสัมภาษณ์กันเลยครับ

     - พื้นฐานในการเตรียมตัวไปสอบสัมภาษณ์นั้นคณะใดๆก็ไม่ได้แต่ต่างกันครับในเรื่องของการแต่งตัวให้ถูกกฎระเบียบ ตรงนี้ถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งเพราะบอกเลยครับว่าจุดประสงค์ในการสอบสัมภาษณ์นี้เข้าจะดูบุคลิกภาพของเราด้วย
    
     - เมื่อทราบสถานที่ที่แน่นอนแล้ว เพื่อป้องกันการหลงทางในวันจริงควรลองไปสำรวจสถานที่นั้นก่อนครับ

     - เมื่อถึงวันสอบจริงควรไปถึงก่อนเวลานัดสัก15 นาที เพื่อกันการไปสายหรือเหตุขัดข้องอื่นๆ
    
     - การมีสัมมาคารวะและมารยาทที่ดีซึ่งควรปฎิบัติกันอยู่แล้วก็เอาไปปฎิบัติในห้องสอบด้วยนะครับ
    
     - เนื้อหาของคำถามที่มักจะเจอ
คำถามส่วนใหญที่เจอแน่ๆในการสอบสัมภาษณ์
1.มีอาชีพในฝันเป็นอะไร คิดว่าเรียนจบไปจะไปทำอะไร
2.บอกเหตุผลที่เลือกเข้ามาเรียนในคณะนี้ของมหาวิทยาลัยนี้หน่อย
3.ชอบวิชาอะไรและไม่ชอบวิชาอะไร
4.ถ้าไม่ได้เรียนที่นี่แล้วจะไปเรียนที่ไหน
5.สมมติว่าเรียนแล้วเกิดมีปัญหาที่ส่งผลต่อการจบการศึกษาแล้วจะทำอย่างไร
6.รู้รึเปล่าว่าคณะนี้เรียนเกี่ยวกับอะไร รู้อะไรเกี่ยวกับคณะนี้บ้าง
7.บ้านอยู่ไหน มีพี่น้องกี่คน เดินทางมียังไง กินข้าวหรือยัง กินกับอะไร อร่อยไหม ? ฯลฯ

     ซึ่งคำตอบนั้นมันไม่ได้ตายตัวอยู่แล้วครับ ขึ้นอยู่กับทัศนคติหรือเหตุผลของแต่ละคน แต่สิ่งที่สำคัญคือควรจะค้นข้อมูลเกี่ยวกับคณะและมหาวิทยาลัยที่เรียกเราไปสอบสัมภาษณ์ไว้ให้เยอะที่สุดไว้ก่อน จะเอาความรู้เกี่ยวกับวิศวกรรมที่เคยได้อ่านจากในหนังสือไปตอบก็ได้พยายามตอบให้เป็นกลางและเป็นตัวของตัวเองมาที่สุด ไม่ต้องเลิศหรู หรือพูดเหมือนว่าเราท่องสคริปต์มา ตอบให้ชัดเจนและฉะฉานพร้อมทั้งแสดงความมั่นใจในตัวเองเพื่อให้กรรมการสอบสัมภาษณ์เห็นศักยภาพที่แท้จริงในตัวเรา

   
 
(ภาพบรรยากาศการสอบสัมภาษณ์)


     - บางคำถามของการสอบสัมภาษณ์อาจอยู่เหนือการเตรียมตัว เพราะว่าเขาต้องการที่จะดูความสามารถในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของเรา คำถามที่ถามอาจจะเป็นคำถามที่ยากเกินได้หรือคำถามที่เขามั่นใจว่าเราไม่รู้แน่ๆแต่อย่าตกใจไปครับ ให้ลองหยุดคิดซักนิดและหาคำตอบที่ดีที่สุดในความคิดของเรามาตอบ แต่ถ้าไม่ทราบจริงๆ ก็ตอบไปว่าไม่รู้ครับ แต่อย่าตอบไปแค่ว่าไม่รู้เฉยๆนะ ให้พยามยามอธิบายว่าทำไมเราถึงไม่รู้ หรืออาจบอกไปว่าจะพยายามกลับไปศึกษาค้นคว้าเพื่อนหาคำตอบของคำถามครับ เพื่อที่จะแสดงให้เขาเห็นถึงความใฝ่รู้ของเรา
   
     - บางคำถามอาจออกแนวกดดัน คล้ายกวนๆเล็กน้อย ตรงนี้ของให้รู้ไว้เลยครับว่าเป็นแผนของกรรมการสอบสัมภาษณ์นะครับ คือเขาต้องการวัดวุฒิภาวะทางอารมณ์ของเราว่ามีแค่ไหน ถ้าเราเกิดแสดงอารมณ์โกรธ โมโห ใส่กรรมการสอบสัมภาษณ์ ก็เท่ากับว่าเราติดกับเขาครับ ถ้ารุนแรงอาจถึงขั้นทำให้เราตกสัมภาษณ์ได้เลยทีเดียว ด้วยเหตุผลว่าเขาต้องการคนที่มีความอดทนและสามารถอดทนอดกลั้นอารมณ์ได้ครับ
     - เทคนิคการตอบคำถามแบบกดดันและกวนๆอย่างเช่น "คณะนี้เรียนยากนะ ทั้งฟิสิกส์ ทั้งแคลคูลัส คุณจะเรียนไหวเหรอ ? แน่ใจรึเปล่า ?" ให้ตอบไปอย่างมั่นใจว่า "ไหวครับ ได้เข้ามาเรียนในคณะนี้แล้วผมจะตั้งใจและพยายามให้ดีที่สุดครับ"

     จะเห็นได้ว่าการสอบสัมภาษณืนี้ไม่ใช่เรื่องยากเลยครับ ถ้าเตรียมตัวค้นหาข้อมูลและซ้อมตอบคำถามต่างๆเหล่านี้ให้คล่อง แล้วการสอบผ่านการสัมภาษณ์นี้ถือว่าเป็นเรื่องง่ายดายเลยล่ะครับ การผ่านเข้าไปศึกษาในคณะวิศวกรรมศาสตร์นั้นถือว่าเป็นแค่จุดเริ่มต้นของว่าที่วิศวกรเท่านั้นครับ เพราะหนทางที่จะจบออกมาเป็นวิศวกรเต็มตัวนั้นต้องฝ่าฟันกันไปอีกถึง 4 ปีเต็ม ดังนั้นเรามาเตรียมตัวก้าวสู้รั้วคณะในฐานะน้องใหม่ Freshy ของลูกพระวิศณุกรรมกันเลยดีกว่าครับ

3 ความคิดเห็น:

  1. อยากจะร้องไห้เปนแหล่งข้อมูลที่ดีมากเลยครับ

    ตอบลบ
  2. แล้วถ้ามีคำถามภาษาอังกฤษมันจะประมาณใหนครับ

    ตอบลบ

View My Blog
Subscribe to RSS Feed Follow me on Twitter!