ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจไทยที่ลุ่มๆ ดอนๆ หลายปีหลัง กลุ่มธุรกิจหนึ่งเดียวที่โดดเด่นขึ้นมาทั้งกำไร การขยายธุรกิจ และระคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นจะเป็นพลังงาน ซึ่งผู้นำในไทยก็ไม่พ้น ปตท. และ ปตท.สผ. ที่นอกจากจะได้เต็มๆ จากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันแล้ว ยังกระจายความเสี่ยงไปยังธุรกิจปิโตรเคมี และข้ามไปถือหุ้นโรงกลั่นเป็นการการันตีความมั่นคงระยะยาว
จุดวิเคราะห์ความนิยม
เมื่อผลกำไรดี บริษัทมีระบบ หนีไม่พ้นเงินเดือน โบนัส และการขึ้นเงินเดือน ย่อมจูงใจหนุ่มสาวตั้งแต่นักศึกษาจบใหม่ขึ้นไปถึงคนทำงาน ให้เดินเข้าหาบริษัทในกลุ่ม ปตท. ด้วย Positioning ในใจว่าว่าผลตอบแทนต่างๆ ต้องสมน้ำสมเนื้อกับกำไรของบริษัทแน่นอน
ส่วนในบริษัท ปตท. สผ. (สำรวจและผลิตปิโตรเลียม) นั้น แหล่งข่าวเผยว่า ฐานเงินเดือนใน ปตท.สผ. จะสูงกว่า ปตท. อยู่เล็กน้อย เพราะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ มาแล้วถึง 20 ปี ในขณะที่ ปตท. เพิ่งเข้าได้เพียง 3 ปี
ข้อมูลจากฝ่ายทรัพยากรบุคคล องค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เผยว่าการขึ้นเงินเดือนของ ปตท. จะดูภาวะเศรษฐกิจ ภาพรวมทิศทางธุรกิจว่าดีหรือไม่ รวมถึงดูอัตราเงินเฟ้อมาประกอบ และมองว่าการขึ้นเงินเดือนเป็นเครื่องมือการบริหาร เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ แต่ระยะยาวจะกลายเป็นต้นทุน การจ่ายค่าตอบแทนจะเทียบกับข้อมูลธุรกิจใกล้เคียง
ที่ผ่านมา ปตท. ขึ้นเงินเดือน 4-10% แนวโน้มช่วง 5 ปีที่ผ่านมาบริษัทขึ้นเงินเดือนโดยเฉลี่ยแล้ว 5.4-5.9% ทุกปี ปตท. ในยุคเก่าที่ยังไม่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้นเงินเดือนค่อนข้างน้อย แต่โบนัสมาก ส่วนหลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ฐานเงินเดือนเริ่มปรับขึ้น และจ่ายโบนัส 4-5 เดือน ส่วนหนึ่งดูผันแปรขึ้นกับประสิทธิภาพของแต่ละหน่วยงานหรือบุคคล แต่ทั้งนี้ทุกปีจะต้องทบทวนเรื่องนโยบายผลตอบแทนเสมอ เพราะยังมีข้อผูกมัดกับกระทรวงการคลังผู้ถือหุ้นใหญ่ว่าจะต้องถูกวัด Corporate Governance และผลปฏิบัติงานของบริษัท (Performance)
เกณฑ์การเลือกพนักงาน
ผู้สมัครที่จบปริญญาตรีสาขาอื่นๆ นอกจากวิศวกรรมศาสตร์ จะต้องมีคะแนนภาษาอังกฤษ TOEIC หรือ TOEFL (ปตท. จะเทียบเป็น TOEIC ให้) 550 คะแนนขึ้นไป (อายุไม่เกิน 2 ปี) และมีเกรดเฉลี่ยสะสมจาก
- สถาบันของรัฐ 2.70 ขึ้นไป
- มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ 2.70 ขึ้นไป
- สถาบันเอกชน 3.00 ขึ้นไป
ผู้สมัครระดับปริญญาโทหรือเอกก็ต้องมีผลคะแนนในระดับก่อนนั้นเข้าเกณฑ์ข้างต้นด้วย
ผู้สมัครที่ผ่านเกณฑ์นี้จึงจะมีสิทธิถูกเรียกสอบข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์ต่อไป
ช่องทางการสมัครงาน
- สมัครงานด้วยตนเอง
- สมัครงานออนไลน์ www.pttplc.com, www.pttep.com
ตำแหน่งนี้ที่ต้องการ
ปตท. เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจปิโตรเลียมครบวงจร ตั้งแต่ “ต้นน้ำ” ปิโตรเลียม จนถึง “ปลายน้ำ” ปิโตรเคมี ดังนั้นจึงเป็นองค์กรที่มีลักษณะงานหลากหลายสายอาชีพ เช่นนอกจากสายวิศวกรรมปิโตรเลียม วิศวกร นักวิทยาศาสตร์ แล้ว ก็ยังมีสายเทคโนโลยีสารสนเทศ การเงิน และอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ ปตท.จริงจังกับการวางระบบสมัยใหม่ และใช้เป็นเครื่องมือในการทำงานทั้งองค์กร รวมถึงการตลาด, ทรัพยากรบุคคล, ฯลฯ โดยจะต้องสอดคล้องกับตำแหน่งและหน่วยงาน
อัตราเงินเดือนและโบนัส
ปตท. ไม่ได้กำหนดอัตราตายตัวไว้ แต่ใช้หลักการบริหารค่าตอบแทนไว้ดังนี้
1. ต้องสอดคล้องกับผลการปฏิบัติงาน ได้แก่ ความรู้ ความสามารถ ผลการปฏิบัติงาน และความยากง่ายของหน้าที่ความรับผิดชอบที่แตกต่างกัน
2. ต้องสามารถแข่งขันได้กับธุรกิจชั้นนำในอุตสาหกรรมประเภทเดียวกัน
3. ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของ ปตท. และไม่ทำให้เป็นภาระค่าใช้จ่ายที่ “เกินตัว” ต่อองค์กรในระยะยาว
สวัสดิการที่น่าสนใจ
- รูปแบบตัวเงิน : เงินเดือน โบนัส ค่าล่วงเวลา สวัสดิการรักษาพยาบาล เงินช่วยเหลือการศึกษาบุตร เป็นต้น
- รูปแบบที่ไม่เป็นตัวเงิน : การยกย่องชมเชยในรูปแบบต่างๆ เช่น พนักงานดีเด่นประจำปี รางวัลทางด้านกิจกรรมพิเศษต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กร เช่น รางวัลเพิ่มผลผลิต รางวัลด้านความปลอดภัย รางวัลด้านการบริหารองค์ความรู้ในองค์กร ฯลฯ
ทำเล
สำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ เป็นอาคารของ ปตท. เอง ตั้งอยู่ริมถนนวิภาวดีรังสิต สะดวกต่อการขับรถยนต์ ส่วนตัวไป อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต และยังอยู่ติดกับสวนรถไฟ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะยอดนิยมอีกแห่งของคนทำงาน ด้วยบรรยากาศน่าเดิน วิ่ง หรือขี่จักรยานออกกำลังกาย และน่านั่งเล่นผ่อนคลายความเครียด
เวลาเข้าออกการทำงาน
- งานการผลิต : ต้องมีผู้เข้าเวรปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง แบ่งเป็น 2กะ ความยาวกะละ 12 ชั่วโมง โดยกะแรกคือ 8:00 ถึง20:00 น. และกะที่สองคือ 20:00 ถึง 8:00น. เช้าของอีกวัน
- งานสำนักงาน : วันละ 8 ชั่วโมง เหลื่อมกัน 3 ช่วงในลักษณะ “Flexi Time” คือ 8.00 -17.00 น., 8.30 -17.30 น. และ 9.00-18.00 น. เพื่อให้พนักงานเลือกตามความสะดวกในการมาจากต่างทำเลบ้านกันไป และช่วยให้สภาพจราจรรอบสำนักงานไม่แออัดเกินไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น